เพอร์ไลท์ เป็นวัสดุปลูกที่นิยมผสมลงไปในดิน ช่วยเพิ่มความโปร่งในดิน

เพอร์ไลท์ 

เพอร์ไลท์   เป็น หินภูเขาไฟประเภทหนึ่งที่มีจำนวนน้ำในตัวค่อนข้างจะสูง เป็นหินภูเขาไฟที่เจอตามธรรมชาติ กระจายตัวอยู่ในหลายประเทศทั้งโลก ไม่เหมือนกันสำหรับการเก็บกักน้ำ และก็การกระตุ้นการไหลเวียนของอากาศ จะเป็นตัวระบุว่าพืชจำพวกใดจะเติบโตเจริญเมื่อใช้ผสมกับดิน พืชที่อยากน้ำมากมายจะเติบโตได้ดิบได้ดีในเวอร์มิคูไลท์ ขณะที่พืชที่เติบโตเจริญในภาวะแล้ง เป็นต้นว่าแคคตัส แล้วก็พืชอวบน้ำต่างๆจะเติบโตเจริญในเพอร์ไลท์ ถ้าเกิดคุณปลูกพืชที่อยากได้ความชุ่มชื้นมากมาย จะเติบโตได้ดิบได้ดีในเวอร์มิคูไลท์

ในสภาพการณ์ห้อมล้อม ที่โล่งแจ้งที่ชอบแห้งเร็ว เวอร์มิคูไลท์จะมีความเหมาะสมกว่า แม้กระนั้นสำหรับต้นไม้ในบ้าน ความชุ่มชื้นที่มากเหลือเกินอาจจะทำให้กำเนิดปัญหาโรคราได้ ซึ่งการใช้เพอร์ไรท์จะมีความเหมาะสมกว่าในหัวข้อการระบายความชุ่มชื้น อีกหนึ่งเรื่องที่มีความจำเป็นและก็ชอบละเลยกัน ก็คือเรื่องความประพฤติสำหรับการดูแลต้นไม้ขอแต่ละคน อย่างเช่นความถี่สำหรับในการรดน้ำที่แตกต่างกัน บางบุคคลบางทีอาจถูกใจดูและรดน้ำต้นไม้เป็นประจำซึ่งขณะที่บางบุคคลอยากได้ความสบายสำหรับการดูแลต้นไม้ ซึ่งนี่ก็เลยส่งผลให้ไม่มีสูตรดินที่เหมาะสมที่สุด เนื่องแต่มันมีต้นเหตุหลายชนิดเพอร์ไลต์ เป็นหินภูเขาไฟที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ มีเหตุที่เกิดจากลาวาที่มีการเย็นตัวอย่างเร็ว (Volcanic glass) แล้วก็เปลี่ยนเป็นหินออบสิเดียน (Obsidian)

ซึ่งเมื่อน้ำทำปฏิกิริยากับหินออบสิเดียนเป็นเวลานาน จะก่อให้กำเนิดเพอร์ไลต์ขึ้น ตามธรรมชาติแล้ว เพอร์ไลต์จะมีสีดำหรือสีเทาแล้วก็มีรูปร่างที่ไม่แน่นอนเพอร์ไลต์เป็นแร่ประเภทหนึ่งซึ่งไม่ใช่พลังงานซึ่งสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ พบมากในบ่อแร่ ซึ่งส่วนใหญ่จะเจอในประเทศกรีซ อเมริกา ประเทศตุรกี แล้วก็ประเทศญี่ปุ่น เนื่องมาจากเพอร์ไลต์เป็นธาตุที่ราคาแพงถูกก็เลยมักใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆดังเช่นว่า ปูนปลาสเตอร์ การก่ออิฐ แนวทางการทำฝ้าเพดาน หรือกระบวนการทำกระเบื้อง นอกเหนือจากนั้นคุณลักษณะของเพอร์ไลต์ยังเหมาะสำหรับนำไปใช้สำหรับเพื่อการปลูกพืชอีกด้วย เมื่อก่อนที่จะประยุกต์ใช้เป็นสิ่งของปลูกพืชนั้น เพอร์ไลต์ควรจะมีวิธีการสำหรับในการเปลี่ยนสภาพให้มีน้ำหนักค่อย แล้วก็เป็นสีขาว เพื่อนำมาใช้เพื่อการปลูกพืช

เพอร์ไลท์  วัสดุปลูกพืช

คุณลักษณะข้างต้นนี้ทำให้เพอร์ไลต์หมาะสมแก่การใช้เป็นสิ่งของปลูกเอาไว้ภายในการปลูกพืช ซึ่งมีความหมายต่อการเติบโตของพืช โดยคุณลักษณะสำคัญที่ทำให้พืชเติบโตเป็นอากาศและก็การระบายน้ำ ซึ่งเพอร์ไลต์มีคุณลักษณะสำคัญที่เหมาะสมแก่กระบวนการทำให้พืชเติบโตเพอร์ไลต์มีคุณลักษณะที่โปร่ง ทำให้มีอากาศในสิ่งของปลูกสูง พืชจำเป็นจะต้องรับออกสิเจนไม่ใช่เฉพาะทางใบแม้กระนั้นทางรากก็ด้วยเหมือนกัน เมื่ออุปกรณ์ปลูกมีรูพรุนมากมายเท่าไร รากของพืชจะยิ่งดูดซับได้ดิบได้ดี และก็การมีอากาศในสิ่งของปลูก ได้ผลให้ระบบรากมีความแข็งแรงมากขึ้นเรื่อยๆน้ำที่มากเหลือเกินอาจส่งผลให้รากของพืชเน่าได้ การระบายน้ำที่ดีก็เลยเป็นส่วนใดส่วนหนึ่งที่ทำให้อากาศสามารถเข้าไปในดินได้ โดยเหตุนี้ การใส่เพอร์ไลต์เข้าไปกับดินทำให้ดินมีช่องว่างยิ่งไปกว่านั้นยังมีคุณลักษณะที่ระบายน้ำเจริญ ไม่ทำให้น้ำนองในดิน

เพอร์ไลท์ (Perlite) เป็นสิ่งของที่มีลักษณะเป็นก้อนอิฐหินทรายขนาดเล็กๆมักถูกใช้เพื่อสำหรับการปรับปรุงแก้ไข เพอร์ไลท์ ดินหรือใช้ในงานสร้างเพื่อทำให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้นสำหรับการระบายน้ำหรือกันรากเยื่อพืชในสวนหรือสนามกอล์ฟ มันเป็นอุปกรณ์ที่เป็นองค์ประกอบสำคัญในสินค้าเพาเวอร์มอร์ตาร์ เวลาที่มีลักษณะค่อยกว่าดินธรรมดาแม้กระนั้นก็มีความแข็งแรงและไม่เน่าเหม็นด้วยเพอร์ไลท์มีสาเหตุจากการแผ่กรรมวิธีการในธรรมชาติที่มีลักษณะเป็นฟองน้ำที่เข้าไปในหินอัลค้างลินี (obsidian) โดยมีการทำลายโดยความร้อนในลักษณะที่เรียกว่า “expansion” ซึ่งก่อให้เกิดการขยายตัวของฟองน้ำด้านในหินอัลค้างลินี ผ่านวิธีการที่เรียกว่า “กระบวนการทำละลายทางความร้อน” แล้วต่อจากนั้นหินอัลติดอยู่ลินีที่เกิดการขยายตัวจะแปลงเป็นเพอร์ไลท์

เพอร์ไลท์มีคุณลักษณะด้านกายภาพที่ช่วยทำให้เหมาะกับการใช้แรงงานสำหรับการปรับแก้ดินหรือในงานสร้าง อย่างเช่น มีน้ำหนักค่อย แรงต้านทานต่อศักย์กระแสไฟฟ้า และก็มีแรงต้านทานต่อสารเคมี ยิ่งไปกว่านี้ยังมีความรู้ความสามารถสำหรับเพื่อการระบายน้ำได้ดิบได้ดี ทำให้ทำให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้นสำหรับการรองรับระบบระบายน้ำในดิน รวมทั้งสามารถกันรากเยื่อพืชได้อย่างยอดเยี่ยมสำหรับในการเปลี่ยนแปลงดินเพื่อใช้เพื่อสำหรับการเพาะปลูกพืช เพอร์ไลท์สามารถผสมกับดินปลูกเพื่อเพิ่มการระบายน้ำรวมทั้งลดการกัดกร่อนของดิน ทำให้รากพืชสามารถเจริญวัยได้อย่างเหมาะควร ยิ่งกว่านั้นเพอร์ไลท์ยังช่วยสำหรับเพื่อการควบคุมอุณหภูมิในดิน ทำให้รากพืชไม่พบเจอกับความร้อนหรือความเย็นที่สูงเกินความจำเป็น

ในการก่อสร้าง เพอร์ไลท์สามารถใช้เป็นองค์ประกอบของฝาผนังหรือ เพอร์ไลท์ โครงสร้างรองรับสำหรับการสร้างเพื่อเพิ่มความแข็งแรงแล้วก็ความสามารถสำหรับเพื่อการระบายน้ำขององค์ประกอบ นอกเหนือจากนี้ยังมีการนำเพอร์ไลท์มาใช้ในงานฉาบหรือครามผิว ซึ่งช่วยเพิ่มความราบเรียบเนียนแล้วก็ความแข็งแรงให้กับผิวพื้นส่วนประกอบในทุกสิ่ง เพอร์ไลท์มักถูกใช้เป็นสิ่งของสำหรับการปลูกพืชในกระถางหรือกระเช้า โดยเพิ่มเพอร์ไลท์ลงในดินเพื่อทำให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้นสำหรับในการระบายน้ำรวมทั้งสนับสนุนการเติบโตของรากพืช นอกเหนือจากนี้ยังมีการนำเพอร์ไลท์มาใช้สำหรับในการปรับแต่งดินที่มีความเป็นกรดจากน้ำยางพารา หรือใช้สำหรับในการปลูกกล้วยไม้รวมทั้งไม้ประดับอื่นๆเพื่อเพิ่มความร่วมแรงร่วมใจสำหรับการระบายน้ำรวมทั้งคุ้มครองปกป้องการเกิดรากเยื่อเหยเก

ด้วยเหตุนี้ เพอร์ไลท์เป็นอุปกรณ์ที่มีความมากมายหลายสำหรับการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นสำหรับในการปรับแก้ดินสำหรับการเพาะปลูก การก่อสร้าง หรือสำหรับการจัดแบ่งพื้นที่สำหรับเพาะปลูกพืชในสวนหรือสนามกอล์ฟ การใช้เพอร์ไลท์ช่วยสำหรับในการแก้ไขภาวะดินรวมทั้งสร้างสิ่งแวดล้อมที่สมควรสำหรับในการเติบโตของพืชเพอร์ไลต์เป็นแร่ประเภทหนึ่งซึ่งไม่ใช่พลังงานซึ่งสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ พบได้มากในเหมือง ซึ่งโดยมากจะเจอในประเทศกรีซ อเมริกา ประเทศตุรกี รวมทั้งประเทศญี่ปุ่น เนื่องจากว่าเพอร์ไลต์เป็นแร่ที่ราคาแพงถูกก็เลยมักใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆอย่างเช่น ปูนปลาสเตอร์ การก่ออิฐ

วิธีการทำฝ้าเพดาน หรือกระบวนการทำกระเบื้อง นอกเหนือจากนั้นคุณลักษณะของเพอร์ไลต์ยังเหมาะสำหรับการนำไปใช้สำหรับการปลูกพืชอีกด้วย เมื่อก่อนที่จะประยุกต์ใช้เป็นอุปกรณ์ปลูกพืชนั้น เพอร์ไลต์ต้องมีขั้นตอนการสำหรับการเปลี่ยนสภาพให้มีน้ำหนักค่อย รวมทั้งเป็นสีขาว เพื่อนำมาใช้เพื่อสำหรับในการปลูกพืชเพอร์ไลท์ (Perlite)หมายถึงสิ่งของปลูกที่ได้มาจากย่อยหินภูเขาไฟประเภทหนึ่งที่มีชื่อเรียกเดียวกัน (หินเพอร์ไลท์) กระทั่งมีขนาดเล็กละเอียด แล้วหลังจากนั้นก็ค่อยนำไปผ่านความร้อนที่ระดับอุณหภูมิโดยประมาณ 850-900 องศาเซลเซียส จนได้เป็นเพอร์ไลท์พร้อมใช้ที่มีลักษณะเป็นก้อนกรวดเนื้อโปร่งสีขาว มีขนาดตั้งแต่ 2-8 มม.

 

เพอร์ไลท์ 

คุณลักษณะที่สะดุดตาของเพอร์ไลท์

เป็น มีน้ำหนักค่อย องค์ประกอบข้างในมีลักษณะเป็นรูพรุนก็เลยทำให้เพอร์ไลท์สามารถซับน้ำได้ราวๆ 3-4 เท่าของน้ำหนักตัวแล้วก็ช่วยเก็บกักความชื้นในดินปลูกเจริญดังนี้ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องมาวิตกกังวลหรือกลุ้มใจว่าจะก่อให้ดินปลูกเฉอะแฉะหรือมีความชุ่มชื้นสะสมเยอะเกินไป ด้วยเหตุว่าเพอร์ไลท์มีพื้นที่ร่วนรวมทั้งโปร่ง ก็เลยช่วยลดความหนาแน่นและก็การจับตัวกันจนเป็นก้อนแข็งของดิน เพิ่มอัตราการไหลเวียนของอากาศรวมทั้งน้ำในอุปกรณ์ปลูก ทำให้รากพืชเดินได้สบายและก็แข็งแรง เพิ่มอัตราการรอคอยดรวมทั้งการเติบโตของพันธุ์พืชได้อย่างดีเยี่ยม

ต้นกำเนิดของเพอร์ไลท์ (ที่ใช้เป็นสิ่งของปลูก)เป็นหินเพอร์ไลท์  เพอร์ไลท์ ซึ่งเป็นหินภูเขาไฟประเภทหนึ่งที่เกิดขึ้นได้เองในธรรมชาติ พบได้ทั่วไปในประเทศอาร์มีเนีย กรีซ ประเทศตุรกี อเมริกา และก็ฮังการี ซึ่งหินภูเขาไฟจำพวกนี้เป็นหินภูเขาไฟที่มีจำนวนน้ำในตัวค่อนข้างจะสูง เกิดขึ้นจากการเย็นและก็แข็งลงอย่างเร็วของลาวากระทั่งทำให้ได้หินที่มีลักษณะเป็นเนื้อแก้ว (Volcanic Glass) แปลงเป็นหินออบสิเดียน (Obsidian) ที่ตัวหินจะเป็นสีน้ำตาลเข้มหรือสีดำ เนื้อหินเนียนละเอียดรวมทั้งมีผลึกเล็กมากมาย ถัดมาเมื่อหินออบสิเดียนพวกนี้ทำปฏิกิริยากับน้ำเป็นระยะเวลาที่ยาวนานก็จะเปลี่ยนเป็นหินเพอร์ไลท์ ซึ่งโดยส่วนมากจะมีสีดำหรือสีเทา มีขนาดรวมทั้งทรงที่ไม่แน่นอน

โดยแนวทางการผลิตเพอร์ไลท์ที่ใช้เป็นอุปกรณ์ปลูก ทำเป็นโดยการนำหินเพอร์ไลท์ขนาดใหญ่โกรธเคืองเบิดเพื่อย่อยให้หินละเอียดเป็นชิ้นเล็กๆได้เป็นเพอร์ไลท์ดิบ ต่อจากนั้นก็เลยนำเพอร์ไลท์ดิบไปผ่านวิธีการความร้อนที่ระดับอุณหภูมิ 850-900 องศาเซลเซียส จนได้เพอร์ไลท์พร้อมใช้ที่มีขนาดขยายใหญ่ขึ้น 7-16 เท่าของเพอร์ไลท์ดิบ ค่าความหนาแน่นต่ำลงจาก 1,100 kg/m3 เหลือที่โดยประมาณ 30-150 kg/m3 ก็เลยทำให้เพอร์ไลท์มีความพรุนในตัวสูง ช่วยลดความหนาแน่นรวมทั้งเพิ่มช่องว่างให้ดินปลูก แล้วก็เป็นสิ่งของปลูกที่มีคุณลักษณะสำหรับเพื่อการซับความชุ่มชื้นได้อย่างดีเยี่ยม ด้วยคุณลักษณะที่สะดุดตาของเพอร์ไลท์ที่มีน้ำหนักค่อย ซับความชุ่มชื้นไว้กับตัวเจริญ ช่วยเพิ่มอัตราการไหลเวียนของน้ำรวมทั้งอากาศในดินปลูก ทั้งเป็นสิ่งของปลูกที่สะอาดรวมทั้งไม่มีเชื้อโรค ก็เลยนิยมใช้เพอร์ไลท์เพื่อคุณประโยชน์ทางการเกษตรอย่างนานัปการ ดังเช่น

  • ใช้เพอร์ไลท์ช่วยทำให้ปรับประสิทธิภาพดินปลูกให้มีความโล่งและก็ร่วนซุย ช่วยทำให้อากาศระบายได้ดีแล้วก็ระบายน้ำเจริญ ด้วยการใช้เพอร์ไลท์ผสมกับดินปลูก เวอร์มิคูไลท์ หรือพีทมอสในอัตราส่วน 1:1 โดยสามารถใช้เพื่อสำหรับการเพาะเม็ด เพาะต้นกล้า หรือการปลูกพืชพันธุ์ไม้ทั่วๆไป โดยยิ่งไปกว่านั้นการปลูกพืชไม่มีดิน (ไฮโดรโปนิกส์)
  • ใช้เพอร์ไลท์สำหรับในการปักชำพืช โดยสามารถใช้เพอร์ไลท์ที่แช่น้ำจนกระทั่งเปียกน้ำมาใช้ปักชำพืชแทนการใช้น้ำ
  • ใช้เพอร์ไลท์สำหรับทดลองการงอกของเมล็ดพันธุ์ ด้วยการใช้เพอร์ไลท์ที่แช่น้ำกระทั่งเปียกชุ่มมาเป็นอุปกรณ์ปลูกแทนการใช้ดิน ซึ่งเป็นแนวทางการทดลองที่สบายรวมทั้งไม่มีเชื้อโรคมากยิ่งกว่า
  • ใช้เพอร์ไลท์โรยที่รอบๆหน้าดินปลูก เพื่อช่วยคงจะความชื้นของหน้าดิน ลดปัญหาดินปลูกแห้งไว ทำให้เกษตรกรหรือผู้ปลูกเลี้ยงไม่ต้องรอรดน้ำต้นไม้อยู่เป็นประจำ

เพอร์ไลท์ 

ประโยชน์ของเพอร์ไลท์ในการปลูกพืช

1. เพอร์ไลท์นับเป็นวัสดุปลูกที่สะอาดและปราศจากเชื้อโรค เพราะในกระบวนการผลิตเพอร์ไลท์เพื่อใช้เป็นวัสดุปลูก จะใช้ความร้อนที่ระดับอุณหภูมิประมาณ 850-900 องศาเซลเซียส จึงสามารถใช้เป็นวัสดุปลูกแทนดินได้อย่างปลอดภัย ช่วยลดโรคที่เกิดขึ้นจากเชื้อรา แบคทีเรียและแมลงศัตรูพืชที่พบได้ในดินธรรมชาติ

2. เพอร์ไลท์มีค่า pH เป็นกลาง ปลอดภัยต่อพืชพันธุ์ทุกชนิด และสามารถใช้ผสมกับปุ๋ยได้ทุกสูตรโดยไม่ก่อให้เกิดปฏิกิริยาเคมี ช่วยให้ปุ๋ยทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

3. เพอร์ไลท์เป็นวัสดุปลูกที่ไม่ทำปฏิกิริยาเคมีใด ๆ กับต้นไม้ หรือวัสดุปลูกอื่น ๆ ที่ใช้ผสมร่วมกัน จึงสามารถใช้เพาะปลูกพันธ์ไม้ได้อย่างหลากหลาย ทั้งการเพาะปลูกเมล็ด เพาะต้นกล้า การปลูกพืชไร้ดินหรือพืชไฮโดรโปนิกส์ ทั้งยังสามารถใช้ปลูกพันธุ์ไม้อื่น ๆ ได้ทั่วไป

4. เพอร์ไลท์เป็นวัสดุปลูกที่มีน้ำหนักเบาและโปร่ง มีโครงสร้างที่เป็นรูพรุน สามารถดูดซับน้ำได้ดีและช่วยเพิ่มอัตราการระบายน้ำและอากาศในวัสดุปลูก ลดปัญหาดินจับตัวเป็นก้อนแข็ง ช่วยให้พืชเจริญเติบโตได้ดี รากพืชแข็งแรง รากเดินสะดวก ช่วยป้องกันการเกิดโรครากในพืช

5. เพอร์ไลท์เป็นวัสดุปลูกในกลุ่มสารอนินทรีย์ จึงมีรูปร่างที่แน่นอน คงทนและเสื่อมสภาพยาก สามารถใช้ซ้ำได้หลายครั้ง

6. เพอร์ไลท์มีคุณสมบัติเป็นฉนวน ที่มีส่วนช่วยในการควบคุมและรักษาระดับอุณหภูมิภายในดินปลูก

7. เพอร์ไลท์ช่วยลดการใช้ปุ๋ยและสารเคมีมากเกินจำเป็น ด้วยคุณสมบัติโครงสร้างลักษณะรูพรุนของเพอร์ไลท์ จึงช่วยดูดซึมสารอาหารจากปุ๋ย รวมถึงสารเคมีอื่น ๆ เอาไว้ภายในดินปลูกและปล่อยออกมาอย่างช้า ๆ จึงช่วยชะลออัตราการสลายตัวและขยายระยะเวลาการออกฤทธิ์ของปุ๋ยและสารเคมีให้ยาวนานยิ่งขึ้น

เพอร์ไลต์ เป็นหินภูเขาไฟชนิดหนึ่ง เนื้อเป็นแก้ว คือไม่มีรูปผลึก  เพอร์ไลท์  มีองค์ประกอบหลักคล้ายคลึงกับหินไรโอไลต์ แต่มีน้ำแทรกอยู่ 2-5 ดังนั้น จึงมีคุณสมบัติพิเศษคือ เมื่อบดเป็นก้อนเล็ก ๆ แล้วนำไปเผาประมาณ 800-1 000 องศาเซลเซียส จะพองตัวแบบข้าวโพดคั่ว ทำให้มีรูพรุน มีเนื้อเป็นโพรง และมีน้ำหนักเบา 0 5-0 8 กรัม ซีซี จากคุณสมบัติตรงนี้ จึงสามารถนำไปใช้งานได้หลากหลาย เช่น ใช้เป็นวัสดุผสมน้ำหนักเบา แทนทรายก่อสร้าง ในงานคอนกรีต ใช้ทำผนัง-ฝ้ากันความร้อน ทนไฟ ใช้เป็นตัวดูดซับของเหลว ของเสีย หรือใช้ปรับปรุงดินเพื่อเกษตรกรรม โดยจะทำให้ดินร่วนซุย อากาศและน้ำถ่ายเทได้สะดวก

จัดเป็นแร่อุตสาหกรรมที่มีอนาคตดี ในบ้านเรามีแหล่งอยู่บริเวณอำเภอโคกเจริญและสระโบสถ์ MafiaC4  จังหวัดลพบุรี มีการทำเหมือง 2-3 เหมือง แต่รายละเอียดเรื่องเหมืองและราคาจะแนะนำให้ติดต่อสภาการเหมืองแร่ จะได้ข้อมูลชัดเจนมากขึ้น เวอร์มิคูไลต์เป็นแร่ในกลุ่มไมก้า ซึ่งคุณสมบัติเด่นของแร่กลุ่มไมก้าคือ การมีโครงสร้างผลึกเป็นแผ่นซ้อน ๆ กัน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า ไมก้าทุกตัวจะสามารถแตกและขยายตัวเป็นตัวหนอนได้เหมือนเวอร์มิคูไลต์ ไม่พบเป็นแหล่งแร่ที่พอจะทำเหมืองได้ในบ้านเรา ที่พบก็เป็นเพียงส่วนประกอบในดินบางแห่ง คุณสมบัติสำคัญของเวอร์มิคูไลต์คือ มีผลึกซ้อนกันเป็นชั้นและมีน้ำคั่นระหว่างชั้น ดังนั้น เมื่อเผาประมาณ 1 000-1 100 องศาเซลเซียส ก็จะแตกและพองตัวออกเป็นเหมือนตัวหนอนขนาดเล็ก ๆ ลักษณะเช่นนี้จึงทำให้สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้คล้ายกับเพอร์ไลต์ คือใช้ประโยชน์จากการที่มีน้ำหนักเบา