สไปเดอร์ แมน โฮมคัมมิ่ง
สไปเดอร์ แมน โฮมคัมมิ่ง เรื่องย่อ Spider-Man: Homecoming ภายหลังจากมีประสบการณ์อันน่าเร้าใจกับเหล่าอเวนพบร์ส ปีเตอร์ (ทอม ฮอลแลนด์) กลับมายังบ้านของเขา ที่ซึ่งอาศัยอยู่กับ ป้าเมย์ (เมริซ่า โทเม) ภายใต้การดูแลของ โทนี่ สตาร์ค (โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์) ที่ปรึกษาคนใหม่ของเขา ปีเตอร์ บากบั่นอย่างหนักเพื่อจะย้อนกลับไปดำเนินชีวิตปกติเดิมๆทุกเมื่อเชื่อวัน แต่ว่าเขากลับจำต้องวอกแวกเนื่องจากว่าความนึกคิดที่ว่าเขาอยากที่จะพิสูจน์ตัวเองว่าเขามีอะไรที่มากกว่าการเป็นเพียงแค่ สไปเดอร์แมน เพื่อนบ้านผู้เป็นมิตรของคุณแค่นั้น รวมทั้งเมื่อ วัลพบร์ (ไมเคิล คีตัน) แสดงตัวออกมาในฐานะวายร้ายคนใหม่ ทุกสิ่งทุกอย่างที่ ปีเตอร์ นับว่ามันเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดกำลังถูกรุกราม
Iron Man มีหน้าที่มากน้อยแค่ไหน โทนี่ สตาร์ค เรียกได้ว่ามีหน้าที่สำคัญต่อภาพยนตร์ สไป เดอร์ แมน โฮมคัมมิ่ง อยู่ไม่น้อย เอาง่ายๆชุดของสไปดี้ พี่มึงก็ทำให้ แถมยังเป็นแรงกระตุ้นสำคัญให้สไปดี้ต้องการปรับปรุงตนเองขึ้นไปอีกขั้นอีกต่างหาก แต่ว่าถ้าหากถามว่าพี่แกโผล่ออกมาเยอะแยะไหม คงตอบได้ว่า เท่าๆกับที่สไปเดอร์แมนเขาได้ไปโผล่ใน Civil War นั่นล่ะ ส่วนตัวแล้วมีความคิดว่าก็ไม่มากมายไป หรือเปล่าน้อยไปนะ เพราะสามารถทำให้เราจำหลายๆฉากสำคัญที่พี่มึงโผล่มาได้โอกาสเดียว
เว้นแต่ Iron Man แล้ว จะมีใครจาก Avengers โผล่มาอีกบ้าง พูดได้ว่ามาเต็มจ้ะ มากันหลายคนมากมายๆเหนือการคาดการณ์ทีเดียว บางคนมาแค่ชื่อ แต่บางบุคคลก็มากันตัวเป็นๆเลย บางบุคคลโผล่มาแปปเดียวแต่ก็ขโมยซีนเรียกเสียงหัวเราะได้ไม่น้อย แอบกระซิบบอกนิดหนึ่งว่าตอนมองรู้สึกว่า cameo ของคุณลุง Stan Lee ในภาคนี้ค่อนข้างจะยาวกว่าหนังเรื่องอื่นอยู่ไม่น้อย ก็แหม ผู้ให้กำเนิดสไปดี้ทั้งคนนี่ที่นา ให้ลุงเขานิดหน่อยเนาะ
พอนึกถึงจุดนี้ก็รู้สึกน่ะครับผมว่าป้าเมย์ฉบับ Raimi กับป้าเมย์ฉบับใหม่มีการเลือกศิลปินที่เหมาะสมกับคาแรคเตอร์มากมายๆอย่าง Rosemary Harris ผู้รับบทป้าเมย์ฉบับเก่าจะดูสวย สุภาพ ทำให้คนดูรู้สึกเห็นใจและก็อยากจะป้องกัน เวลาที่ Tomei เป็นป้าเมย์สู้ชีวิต มองคล่องแคล่ว รวมทั้งดูแลตัวเองได้ ผมว่ามันเป็นคาแรคเตอร์ที่เหมาะสมกับแนวทางของหนังน่ะขอรับ
ที่เวิร์กกว่าที่คิดเป็นบทของเน็ด (Jacob Batalon) เพื่อนสนิทของปีเตอร์ที่ผมก็แอบกลัวนะว่าบทนี้จะจิดไหม ปรากฏว่าพี่เอ็งเป็นลูกคู่ที่ปฏิบัติภารกิจได้น่าจดจำมากๆอาจมีแอบเบื่อหน่ายนิดๆในฉากโทรจิกปีเตอร์ แต่นอกนั้นถือเป็นคู่หูคู่ฮาที่เสริมรสให้กับหนังได้อย่างดี (โดยเฉพาะอย่างยิ่งประโยคที่เขากล่าวกับคุณครูในห้องคอม… มันอาจเป็นประโยคธรรมดานะ แต่ผมฮา 555)
Michael Keaton ก็เหมาะสมกับบทวัลพบร์มากๆพี่เอ็งมองเท่ห์ ฉลาดหลักแหลม เด็ดขาด ร้ายกาจ แต่ว่าไม่ใช่ร้ายแบบไร้มิติน่ะครับ พี่แกดูมีความลึก มีแรงจูงใจ นับว่าเป็นตัวร้ายของหนัง Marvel ที่ดีมากตัวหนึ่งในด้านของคาแรคเตอร์ แต่ว่าบางทีอาจยังไม่เด่นแบบสุดกำลังในด้านฉากบู๊ (รวมทั้งการให้เสียงบรรยายโดยคุณจักรกฤษณ์ก็เสริมความเด็ดให้ผู้แสดงนี้มากขึ้นไปอีก)
แอ็คชั่นยังไม่เด่น แม้กระนั้นเป็นหนังซูเปอร์วีรบุรุษชักชวนฮา
แต่ แม้จะเห็นด้วยรวมทั้งเข้าใจว่า นี่เป็นภาคเดี่ยวภาคแรกของไอ้แมงมุมคนใหม่ สไปเดอร์ แมน โฮมคัมมิ่ง แม้จะมิได้เป็นการรีบูทแบบเริ่มต้นใหม่หมด มีเหตุบางส่วนก็ถูกเล่าแบบย่อท้อด้วยบทพูด แต่มันก็เหมือนสไปดี้เป็นมือใหม่ในแวดวงซูเปอร์ฮีโร่ ฉากแอ็คชั่นรวมทั้งความประพฤติอาจดูไม่หวือหวา หรือมีท่าหรูๆให้รู้สึกจำฉากแอ็คชั่นในหนังมันทำให้พวกเรารู้สึกอย่างงั้นจริงๆ
ทุกสิ่งทุกอย่างที่คนดูได้ทราบจักในขณะมอง ก็เป็นสิ่งที่ปีเตอร์ได้เรียนรู้สำหรับเพื่อการเป็นซูเปอร์ฮีโร่ด้วยเหมือนกัน แม้กระนั้นสิ่งที่ผมรู้สึกได้ในฉากแอ็คชั่นบางฉากของภาคนี้หมายถึงมันมีการเคลื่อนที่ไม่กระจ่าง ทุกสิ่งอยู่ใกล้กระทั่งดูไม่ทัน ไม่รู้จักว่ากำเนิดอะไรขึ้น คนไหนกันอยู่ที่ไหน
ทอม ฮอลแลนด์ เปิดตัวในฐานะปีเตอร์ ปาร์คเกอร์/สไปเดอร์ แมน ไปใน Captain America: Civil War ซึ่งมันเป็นจุดกำเนิดของการบอกทางไปสู่การศึกษาค้นพบตัวตนของเขาในฐานะซูปเปอร์ฮีโร่สไปเดอร์ แมน ใน สไปเดอร์ แมน โฮมคัมมิ่ง กระตุ้นความระทึกใจตื่นเต้นด้วยประสบการณ์ของเขากับเหล่าอเวนพบร์ส ปีเตอร์จะกลับไปยังบ้านของเขา ที่ซึ่งเขาอาศัยอยู่กับป้าเมย์ (เมริซา โทเม) ภายใต้การดูแลของโทนี่ สตาร์ค (โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์) ที่ปรึกษาคนใหม่ของเขา ปีเตอร์พากเพียรอย่างหนักเพื่อจะย้อนกลับไปใช้ชีวิตธรรมดาเดิมๆแต่ละวัน
ชุดใหม่ที่เขาว่าโก้เก๋ นี่เท่ขนาดไหน ก็คือเท่มาก ทำอะไรได้หลายประเภทมากมายทีเดียว ด้วยเหตุว่าโทนี่ สตาร์ค คงจะเห็นว่า หากจะไปสู้กับเหล่า Avengers เจ้าปีเตอร์คงจะอยากได้อะไรมากยิ่งกว่าแค่พ่นใยแน่ๆล่ะ ก็แหม พี่ๆบุคคลอื่นนี่ลีกใหญ่กันทั้งหมด ถ้าหากพ่นใยได้อย่างเดียว ปีเตอร์อาจไม่มีโอกาสได้ออกมาโลดแล่นในหนังโดดเดี่ยวตัวเองต่อแน่ๆฟังก์ชั่นหลายประเภทที่โทนี่ใส่ให้มาก็มีความคล้ายกับชุดของ Iron Man อยู่ไม่น้อย ถือได้ว่ามิติใหม่ของชุด Spider-Man ที่พวกเรามิได้เคยเห็จาก Spider-Man ภาคของ Toby Maguire หรือ Andrew Garfield มาก่อนเลย
New York หรอ? พอได้แล้วมั๊ง เป็นที่รู้กันโดยทั่วไปอยู่แล้วว่า ซูเปอร์วีรบุรุษสายเหี้ยนฮาคนนี้ มีบ้านเกิดเป็นชาวนิวยอร์กเกอร์ แม้กระนั้นจะให้ผู้ชมมาเห็นมหานครนิวยอร์กถูกทำลายอีก หลังจากที่โดนทำลายมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วนก็คงจะเอียนอยู่ไม่น้อย ในภาคนี้ พวกเราขอบอกลาตึก Empire State และเซย์ฮัลโหลให้กับ อนุสาวรีย์วอชิงตัน (Washington Monumen) แลนด์มาร์คจุดใหม่ที่กำลังจะถูกทำลาย (หืม) ซึ่งเป็นฉากไฮไลท์ฉากหนึ่งของภาพยนตร์ประเด็นนี้อย่างยิ่งจริงๆ เพราะนอกจากจะได้ภาพในมุมมองที่ผิดตาแล้ว ยังได้ลุ้นจนถึงตัวเหนียวอีกด้วย
เรื่องย่อเกิดเรื่องราวชีวิตไฮสคูลทั่วๆไปของ Peter Parker (15 ปี)
หลังเข้าร่วม Civil War และได้ทราบจะกับ Tony Stark ขณะเดียวกัน ก็ไปรับรู้การสร้างอาวุธอย่างผิดกฎหมายของ The Vulture เข้า Peter ใช้โอกาสนี้ในการพิสูจน์ตัวเองเพื่อให้ได้เป็นส่วนหนึ่งในทีม Avengers
ตัวละครรู้สึกว่ารวมๆไม่มีอะไรให้ขี้บ่นนัก ด้วยเหตุว่า 1.มาร์เวลแจ๋วเรื่องแคสติ้ง ไม่เคยมีผิดหวังสักบท รวมทั้ง2หนังวีรบุรุษมิได้จุดโฟกัสความก้าวหน้านักแสดงมาก เพียงแค่เล่นได้สมหน้าที่ก็นับว่าผ่านแล้ว และก็โฮมคัมมิ่งเองก็บรรลุจุดประสงค์ทั้งสอง กลุ่มดารามีเสน่ห์ เคมีดี เล่นร่วมกันรวมทั้งฮาๆกวนๆสร้างบรรยากาศเด็กไฮสคูลใสๆให้หนัง
บทที่ชอบเป็นพิเศษชูให้ Ned สหายที่มาสร้างสีสันให้ชีวิต Peter จนกระทั่งทำให้มองสมเด็ก ไม่ได้มองรันทดหมดหวังราวกับหลายๆภาคก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา แล้วก็ Zendaya ที่แม้ว่าจะมิได้มีบทบาทมากมาย แต่กลับแย่งซีน Liz ได้อย่างง่ายดายจำต้องยอมรับว่าเธอมีเสน่ห์ มีความโก้บางอย่าง พอเพียงเปิดตัวว่าเป็นเอมเจแล้วถึงขนาดอ้าปากหวอ อ้าว! ไสว่าสิบ่ใช่เอมเจ… แต่ไม่ได้ผิดหวังอะไร ถูกใจแล้วก็อยากเห็นนางกำนัลฐานะนางเอกเต็มตัว เอ๋ยถึงตัวร้ายนิดหน่อย สไปเดอร์ แมน โฮมคัมมิ่ง มีความคิดว่าสมหน้าที่ดีอะ ไม่ต้องมาก ไม่ต้องเล่นใหญ่ เงื่อนมีน้ำหนักรวมทั้งพฤติกรรมก็มีเหตุผล ไม่ใช่โหวกเหวกถล่มๆลักษณะเด่นก็คือเหมือนจริง ข้อบกพร่องคือความมันส์ของหนังต่ำลง
มาถึงไฮไลท์ของหนัง Tom Holland ทำหน้าที่ตนเองก้าวหน้ามาก สามารถหามหนังทั้งยังเรื่องไปจนถึงจบได้โดยไม่หลุดติดอยู่แรกเตอร์สักซีน เคยอ่านคอมมิคแค่ไม่กี่ตอน แต่ว่าก็พอทราบดีว่าความกวนสไปดี้จำเป็นต้องหนักเบอร์ไหน ซึ่งน้องทอมก็ทำได้เลิศเลอ จะมีล้นเกินหน่อยก็คือความน่ารัก น่ารัก ที่ถ้าเกิดเป็นสไปดี้วัยโดยประมาณ The Amazing Spiderman เราคงจะเห็นว่า มากไป แต่เนื่องจากว่าเป็นวัย 15 กำลังเอ๊าะๆแตกเนื้อหนุ่ม (?) ความหน้าเด็ก ความบ้องแบ๊ว ความกระตือรือร้น
เทียบ Spider-Man ของ Tom Holland กับ Spider-man ของ Toby Maguire กับ Andrew Garfieldที่จริงแล้วสไปเดอร์แมนอีกทั้งสามคนมีสิ่งที่แตกต่างที่เป็นข้อดีและจุดอ่อนของแต่ละคนแตกต่างกันไป Spidey เวอร์ชั่นแรกของ Toby Maguire บางทีอาจเหนือกว่าตรงที่เป็นหนังเซ็ทแรกของสไปเดอร์แมนที่ถูกปล่อยออกมา ตัวละครยังไม่บอบช้ำ และเทคโนโลยีที่ทำเป็นในขณะนั้นก็พอเพียงที่จะทำให้คนดูตื่นตาตื่นใจไปกับภาพยนตร์ได้แล้ว จึงไม่ฉงนใจที่ผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยจะติดอกติดใจกับสไปเดอร์-แมน เวอร์ชั่นนี้มากที่สุด
The Amazing Spider-Man ของ Andrew Garfield ก็ได้เทียบตรงที่ ภาพยนตร์ถูกผลิตขึ้นมาในยุคที่ Visaul Effects ถูกปรับปรุงขึ้นกว่าเดิมเยอะๆทำให้พวกเราได้เห็นภาพสวยๆที่ผิดตาไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งฉากแสงไฟของมหานครนิวยอร์กในยามวิกาลของภาพยนตร์ทั้งสองภาค